5 เทรนด์ In-store Media ปี 2025 ที่จะทำให้ลูกค้าตกหลุมรักแบรนด์คุณ

In-store Media

ไม่ได้แค่ขาย…แต่ต้อง ‘ชนะใจ’! 5 เทรนด์ In-store Media ปี 2022 ที่จะทำให้ลูกค้าตกหลุมรักแบรนด์คุณ
ในยุคที่ทุกแบรนด์ต่างแข่งขันกันอย่างดุเดือด การมีแค่สินค้าคุณภาพดีหรือราคาที่น่าดึงดูดอาจจะยังไม่เพียงพออีกต่อไป ผู้บริโภคยุคใหม่ไม่ได้ต้องการแค่สินค้าที่ดี แต่พวกเขามองหา “ความรู้สึก” และ “ประสบการณ์” ที่จะได้รับจากการมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เองที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความผูกพันและเปลี่ยนลูกค้าให้กลายเป็นสาวกตัวจริงที่พร้อมจะกลับมาซื้อซ้ำและบอกต่อ

ดังนั้น หน้าที่ของนักการตลาดและเจ้าของธุรกิจในปัจจุบันจึงไม่ใช่แค่การ “ขาย” แต่คือการ “ชนะใจ” ลูกค้า ซึ่งหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้คุณทำภารกิจนี้ได้สำเร็จก็คือ In-store Media หรือสื่อในร้านค้า ที่ได้พลิกโฉมจากป้ายโฆษณาแบบเดิมๆ มาเป็นอาวุธลับที่ทรงพลังในการสร้างประสบการณ์สุดพิเศษในร้านค้า

ในปี 2025 นี้ เราได้เห็นเทรนด์ In-store Media ที่น่าจับตามองมากมาย ซึ่งไม่ได้มุ่งเน้นแค่การดึงดูดสายตา แต่เป็นการสร้างปฏิสัมพันธ์, การสร้างเรื่องราว, และการสร้างความรู้สึกที่ลูกค้าจะไม่มีวันลืม ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก 5 เทรนด์ In-store Media ที่จะช่วยให้คุณสามารถชนะใจลูกค้าและทำให้พวกเขาตกหลุมรักแบรนด์ของคุณอย่างแท้จริง

1. การผสานเทคโนโลยีสร้างปฏิสัมพันธ์: จากสื่อสารทางเดียวสู่การมีส่วนร่วม

ในอดีตสื่อในร้านค้ามีหน้าที่แค่สื่อสารข้อมูลจากแบรนด์ไปสู่ลูกค้าแบบทางเดียว แต่ในปี 2025 นี้ เทคโนโลยีได้เข้ามาทำให้สื่อเหล่านี้สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์และเปิดโอกาสให้ลูกค้ามีส่วนร่วมได้อย่างน่าทึ่ง

ลองนึกภาพว่าเมื่อคุณเดินเข้าไปในร้านแล้วเห็นป้ายโฆษณาแบบเดิมๆ กับการเดินเข้าไปในร้านแล้วเจอตู้คีออสอัจฉริยะที่ให้คุณสามารถเข้ามาค้นหาสินค้า, ตรวจสอบสต็อก, หรือเล่นเกมสนุกๆ เพื่อรับส่วนลดและของรางวัลเล็กๆ น้อยๆ ได้ด้วยตัวเอง ความรู้สึกที่ได้ย่อมแตกต่างกันอย่างแน่นอน การมีปฏิสัมพันธ์ง่ายๆ เหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าสนุกสนานกับการช้อปปิ้งและรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม ซึ่งเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับประสบการณ์ในร้านค้าได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยีอย่าง Smart Mirror หรือกระจกอัจฉริยะที่ใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) เพื่อให้ลูกค้าสามารถ “ลอง” สินค้าเสมือนจริงได้โดยไม่ต้องหยิบจับสินค้าจริง เช่น ลองชุด, ลองรองเท้า, หรือลองเครื่องสำอาง การตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นและสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่ที่ไม่สามารถหาได้จากการช้อปปิ้งออนไลน์ หรือแม้แต่ Digital Display ที่ตอบสนองต่อการเคลื่อนไหว ซึ่งสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวของลูกค้า เมื่อลูกค้าเดินผ่าน ป้ายก็จะแสดงผลโฆษณาสินค้าที่เกี่ยวข้องทันที ซึ่งเป็นการสื่อสารที่ฉับไวและตรงกับความสนใจของลูกค้าแต่ละคน

การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้จะช่วยเปลี่ยนร้านค้าของคุณให้กลายเป็นพื้นที่ที่เต็มไปด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ ทำให้ลูกค้าอยากใช้เวลาในร้านนานขึ้นและรู้สึกประทับใจอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการสร้างความผูกพันในยุคนี้

2. การสร้าง ‘โลกของแบรนด์’ ด้วยสื่อเสียงและกลิ่น: มิติใหม่ของการสร้างบรรยากาศ

หากภาพคือสิ่งที่ดึงดูดสายตา เสียงและกลิ่น คือสิ่งที่สร้างบรรยากาศและฝังอยู่ในความทรงจำของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ในปี 2025 นี้ แบรนด์ต่างๆ ได้ให้ความสำคัญกับ In-store Media ที่ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภาพ แต่ยังรวมถึงสื่อที่ใช้ประสาทสัมผัสอื่นๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่สมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า

การเลือกเพลงที่เหมาะสมกับแบรนด์จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ต้องการได้ทันที เช่น ร้านกาแฟอาจจะเปิดเพลงแจ๊สเบาๆ เพื่อสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย หรือร้านเสื้อผ้าอาจจะเปิดเพลงจังหวะสนุกๆ เพื่อสร้างความกระตือรือร้น นอกจากนี้ยังสามารถใช้สื่อเสียงในการโปรโมทสินค้าหรือกิจกรรมพิเศษในร้านได้อีกด้วย

และที่สำคัญไม่แพ้กันคือเรื่องของ กลิ่น กลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์จะช่วยสร้างการจดจำและกระตุ้นอารมณ์ของลูกค้าได้อย่างดีเยี่ยม ลองนึกถึงร้านกาแฟที่มีกลิ่นหอมของกาแฟคั่วสดใหม่ หรือร้านสปาที่มีกลิ่นอโรมาที่ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย กลิ่นเหล่านี้จะทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ของคุณได้แม้ไม่ได้อยู่ในร้าน และเมื่อพวกเขาได้กลิ่นนี้ที่ไหนก็ตาม ก็จะนึกถึงแบรนด์ของคุณขึ้นมาทันที

การสร้างโลกของแบรนด์ด้วยสื่อเสียงและกลิ่นจะช่วยให้ลูกค้าสัมผัสถึงแบรนด์ของคุณได้ด้วยประสาทสัมผัสที่หลากหลาย ทำให้ประสบการณ์ที่ได้รับลึกซึ้งและน่าจดจำยิ่งขึ้น

3. Hyper-Personalization: การสื่อสารแบบ “รู้ใจ” ลูกค้าเฉพาะบุคคล

ในยุคที่ผู้บริโภคถูกรายล้อมไปด้วยโฆษณามากมาย การสื่อสารแบบ “เหมา” ทั้งหมดอาจจะไม่เกิดผลอีกต่อไป เทรนด์ In-store Media ในปี 2025 จึงเน้นไปที่การสื่อสารแบบ Hyper-Personalization หรือการปรับเปลี่ยนเนื้อหาให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคนราวกับว่าแบรนด์กำลังคุยอยู่กับพวกเขาเพียงคนเดียว

จินตนาการว่าคุณเดินเข้าร้านแล้วมีจอแสดงผลดิจิทัลแสดงข้อความต้อนรับที่เป็นชื่อของคุณ หรือแสดงโปรโมชั่นที่ตรงกับสินค้าที่คุณเพิ่งค้นหาในแอปพลิเคชันของแบรนด์เมื่อคืนนี้ ความรู้สึกที่ได้รับย่อมแตกต่างจากการเห็นป้ายโฆษณาทั่วไปอย่างแน่นอน

การใช้เทคโนโลยีอย่าง Beacon Technology ที่ส่งสัญญาณบลูทูธไปยังสมาร์ทโฟนของลูกค้าที่เดินผ่าน เพื่อส่งข้อความหรือโปรโมชั่นพิเศษแบบเรียลไทม์ เช่น “สวัสดีคุณ [ชื่อลูกค้า] รับส่วนลด 10% สำหรับสินค้าที่คุณเคยกดไลก์!” เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการสื่อสารแบบรู้ใจที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับพวกเขาอย่างแท้จริง และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขายได้อย่างตรงจุด เพราะเป็นการนำเสนอสินค้าให้กับลูกค้าที่กำลังมีความสนใจอยู่แล้ว

การสื่อสารที่ตรงใจและตรงเวลาจะช่วยสร้างความประทับใจที่เหนือกว่า และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถชนะใจลูกค้าได้ในระยะยาว

4. Seamless O2O: เชื่อมต่อโลกออนไลน์-ออฟไลน์อย่างไร้รอยต่อ

ผู้บริโภคยุคนี้ไม่ได้แยกโลกออนไลน์กับออฟไลน์ออกจากกันอีกต่อไป พวกเขาอาจจะค้นหาสินค้าออนไลน์แล้วมาซื้อที่ร้าน หรือมาดูสินค้าจริงที่ร้านแล้วกลับไปซื้อออนไลน์ ดังนั้น In-store Media ที่ดีจึงต้องสามารถเชื่อมต่อสองโลกนี้เข้าด้วยกันได้อย่างราบรื่น

หนึ่งในตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือการโปรโมทบริการ Click & Collect ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งซื้อสินค้าออนไลน์แล้วมารับที่ร้าน หรือบริการสั่งซื้อสินค้าที่ร้านแต่ให้ส่งถึงบ้าน (Ship from Store) ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และยังเป็นการเชื่อมต่อประสบการณ์การซื้อขายทั้งสองช่องทางเข้าด้วยกันอย่างลงตัว

นอกจากนี้ การใช้ QR Code บนป้ายต่างๆ ในร้านค้าก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทรงพลังที่ช่วยเชื่อมโยงลูกค้าไปยังโลกดิจิทัลได้อย่างง่ายดาย ลูกค้าสามารถสแกน QR Code เพื่อรับข้อมูลสินค้าเพิ่มเติม, อ่านรีวิว, ดูวิดีโอสาธิต, หรือสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ได้ทันที เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้เกิดการซื้อได้อย่างดี

รวมไปถึงการนำ Feed จากโซเชียลมีเดียของแบรนด์มาแสดงผลบนป้ายดิจิทัลในร้าน ก็ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์มีความเคลื่อนไหว และยังช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าอยากโพสต์และแชร์เรื่องราวของแบรนด์ด้วย การเชื่อมต่อโลกทั้งสองเข้าด้วยกันทำให้ประสบการณ์ของลูกค้าไม่ถูกขัดจังหวะ และยังช่วยให้แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลลูกค้าได้จากทั้งสองช่องทางเพื่อนำมาวิเคราะห์และพัฒนาต่อไป

5. Sustainability & Storytelling: สื่อที่ใส่ใจโลกและเล่าเรื่องอย่างมีคุณค่า

กระแสความยั่งยืนเป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยุคใหม่ให้ความสำคัญมากขึ้น ดังนั้น In-store Media ก็ควรสะท้อนคุณค่านี้ออกมาด้วย แบรนด์ที่ไม่เพียงแต่ขายสินค้า แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมจะสามารถสร้างความประทับใจที่เหนือกว่าและดึงดูดลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

การใช้สื่อสิ่งพิมพ์ที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล หรือการหันมาใช้สื่อดิจิทัลมากขึ้นเพื่อลดการใช้กระดาษและลดปริมาณขยะ จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ และดึงดูดลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ การใช้สื่อต่างๆ ในร้านค้าเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์เกี่ยวกับความยั่งยืนก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจ เช่น การใช้สื่อดิจิทัลแสดงวิดีโอเกี่ยวกับที่มาของวัตถุดิบ, กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม, หรือกิจกรรมที่แบรนด์ทำเพื่อสังคม สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความผูกพันทางอารมณ์กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ารู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ที่ใส่ใจในเรื่องเหล่านี้

การสื่อสารเรื่องความยั่งยืนผ่าน In-store Media จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด

สรุป: In-store Media คือหัวใจสำคัญของการ ‘ชนะใจ’ ลูกค้า

ในยุคที่การแข่งขันรุนแรง การมีแค่สินค้าที่ดีอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป การลงทุนใน In-store Media ที่สร้างสรรค์และมอบประสบการณ์สุดพิเศษให้กับลูกค้าคือสิ่งที่จะช่วยสร้างความแตกต่างและทำให้แบรนด์ของคุณยืนหนึ่งในใจลูกค้าได้อย่างยั่งยืน

อย่ามองว่าสื่อในร้านค้าเป็นเพียงแค่ป้ายโฆษณา แต่ให้มองว่ามันคือเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ที่จะช่วยให้คุณสามารถ “ชนะใจ” ลูกค้า และทำให้พวกเขารู้สึกผูกพันกับแบรนด์ของคุณอย่างแท้จริง การปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ๆ และกล้าที่จะก้าวออกจากกรอบเดิมๆ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จในยุคนี้ได้อย่างแน่นอนครับ

👉 Pim24.com – ครบวงจรตั้งแต่ออกแบบ พิมพ์ และจัดส่ง มีทีมให้คำแนะนำด้านไฟล์และขนาดอย่างใกล้ชิด

Print Your Vision with A Print
งานพิมพ์ระดับพรีเมียม คมชัด สีสด ทนทาน ไม่ว่าจะเป็น บรรจุภัณฑ์, ป้ายโฆษณา, นามบัตร, โบรชัวร์ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ทุกรูปแบบ เราพร้อมดูแลคุณด้วยบริการที่รวดเร็วและได้มาตรฐาน

📌 สนใจบริการพิมพ์คุณภาพสูงติดต่อ Aprint
📞 ติดต่อเราได้ที่ 02 320 2080
📧 Line : https://line.me/R/ti/p/@499xgedn
💻 ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ aprint.co.th

#Aprint #พิมพ์ดิจิทัล #พิมพ์บรรจุภัณฑ์ #งานพิมพ์คุณภาพ #ป้ายโฆษณา #DigitalPrint 🚀#สติกเกอร์ติดตึก

Previous

Share the Post: